ใช้คีย์ความปลอดภัยในการยืนยันแบบ 2 ขั้นตอน

คุณอาจใช้คีย์ความปลอดภัยกับการยืนยันแบบ 2 ขั้นตอนได้ เพื่อช่วยปกป้องบัญชี Google จากแฮ็กเกอร์
สิ่งสำคัญ: หากคุณเป็นนักข่าว นักเคลื่อนไหว หรือใครก็ตามที่เสี่ยงต่อการตกเป็นเป้าโจมตีทางออนไลน์ โปรดดูข้อมูลเกี่ยวกับโปรแกรมการปกป้องขั้นสูง

ขั้นตอนที่ 1: ซื้อคีย์

ขั้นตอนที่ 2: เพิ่มคีย์ในบัญชี

ตรวจสอบว่าคุณใช้เบราว์เซอร์หรือระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุดอยู่ คีย์ที่ลงทะเบียนใหม่จะใช้ไม่ได้อีกต่อไปในอุปกรณ์ Android 8.0 หรือต่ำกว่า

  1. เปิดเบราว์เซอร์ที่เข้ากันได้ เช่น Chrome
  2. ลงทะเบียนคีย์ความปลอดภัย คุณอาจต้องลงชื่อเข้าใช้
เคล็ดลับ: เพิ่มวิธีอื่นๆ ในการยืนยันตัวตนเพื่อให้เราช่วยคุณลงชื่อเข้าใช้ในกรณีที่คีย์สูญหาย

ขั้นตอนที่ 3: ลงชื่อเข้าใช้ด้วยคีย์

คีย์ความปลอดภัยเป็นขั้นตอนที่ 2 เพื่อการรักษาความปลอดภัยให้มากยิ่งขึ้น หากคุณตั้งค่าขั้นตอนที่ 2 แบบอื่นๆ ไว้ ให้ใช้คีย์ความปลอดภัยเพื่อลงชื่อเข้าใช้ทุกครั้งที่ทำได้ หากคีย์ความปลอดภัยใช้งานไม่ได้ในอุปกรณ์หรือเบราว์เซอร์ที่คุณใช้ คุณอาจเห็นตัวเลือกให้ลงชื่อเข้าใช้ด้วยรหัสหรือข้อความแจ้งแทน

หากพบข้อผิดพลาด "คุณต้องลงทะเบียนคีย์ความปลอดภัยนี้กับบัญชี Google ก่อนจึงจะใช้คีย์ในการลงชื่อเข้าใช้ได้"

  1. ให้พยายามลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชีอื่น
  2. อัปเดตบริการ Google Play
  3. หากต้องการเพิ่มบัญชีที่เป็นปัญหา ให้ลองลงชื่อเข้าใช้อีกครั้ง
เคล็ดลับ: ระบบจะถามหาคีย์ความปลอดภัยหรือขั้นตอนที่ 2 แบบอื่นเมื่อคุณลงชื่อเข้าใช้จากคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์เครื่องใหม่
เมื่อใช้บลูทูธ (BLE)
  1. เปิดแอป Google หรือเบราว์เซอร์ที่เข้ากันได้ เช่น Chrome, Firefox, Edge หรือ Opera ในโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต Android
  2. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google หากยังไม่ได้ลงชื่อเข้าใช้
  3. อุปกรณ์จะตรวจพบว่าบัญชีมีคีย์ความปลอดภัย ให้ทำตามขั้นตอนในการจับคู่อุปกรณ์กับคีย์

หลังจากจับคู่แล้ว คุณจะลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google ได้ตามปกติ หากต้องตรวจสอบว่าเป็นคุณจริงๆ เราจะขอให้คุณกดปุ่มที่คีย์

แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับบลูทูธ

คีย์ไม่จับคู่กับโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต

โปรดตรวจสอบว่าได้ทำดังต่อไปนี้

คีย์ไม่เข้าสู่โหมดการจับคู่

ตรวจสอบว่า

  • คีย์ถูกถอดออกจากคอมพิวเตอร์หรือที่ชาร์จหรือไม่
  • ชาร์จไฟให้คีย์แล้ว

ข้อผิดพลาดของบริการ Google Play

  1. ในอุปกรณ์ Android ให้ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชีที่ไม่ได้ใช้คีย์ความปลอดภัย
  2. บริการ Google Play ควรจะเริ่มการอัปเดตโดยอัตโนมัติ
    • ตรวจสอบว่าอุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแล้ว
  3. ลงชื่อเข้าใช้อุปกรณ์ Android อีกครั้งด้วยบัญชีที่ใช้คีย์ความปลอดภัย
  4. ทำตามขั้นตอนเพื่อลงชื่อเข้าใช้โดยใช้คีย์กับบลูทูธ (BLE)
เมื่อใช้ Near Field Communication (NFC)
  1. เปิดแอป Google หรือเบราว์เซอร์ที่เข้ากันได้ เช่น Chrome ในโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต Android
  2. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google หากยังไม่ได้ลงชื่อเข้าใช้
  3. อุปกรณ์จะตรวจพบว่าบัญชีมีคีย์ความปลอดภัย ทำตามขั้นตอนเพื่อลงชื่อเข้าใช้โดยใช้คีย์

แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับ NFC

โปรดตรวจสอบว่าได้ทำดังต่อไปนี้

  • เปิด NFC ในอุปกรณ์
  • เพิ่มคีย์ในบัญชี
  • ถอดสิ่งที่อาจรบกวนสัญญาณ NFC เช่น เคสหรือสติกเกอร์
  • อัปเดตอุปกรณ์ให้ใช้บริการ Google Play เวอร์ชันล่าสุด
  • ลองรีสตาร์ทอุปกรณ์
  • ลองปิดและเปิด NFC ขึ้นมาใหม่

ข้อผิดพลาดของบริการ Google Play

  1. ในอุปกรณ์ Android ให้ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชีที่ไม่ได้ใช้คีย์ความปลอดภัย
  2. บริการ Google Play ควรจะเริ่มการอัปเดตโดยอัตโนมัติ
    • ตรวจสอบว่าอุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแล้ว
  3. ลงชื่อเข้าใช้อุปกรณ์ Android อีกครั้งด้วยบัญชีที่ใช้คีย์ความปลอดภัย
  4. ทำตามขั้นตอนเพื่อลงชื่อเข้าใช้โดยใช้คีย์กับ Near Field Communication (NFC)
เมื่อใช้ USB
  1. เปิดเบราว์เซอร์ที่เข้ากันได้ เช่น Chrome
  2. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google อุปกรณ์จะตรวจพบว่าบัญชีมีคีย์ความปลอดภัย
  3. เสียบคีย์เข้ากับพอร์ต USB ของอุปกรณ์ คุณอาจต้องใช้อะแดปเตอร์ USB
  4. ถ้าเห็นข้อความจาก "บริการ Google Play" ให้แตะตกลง หากไม่เห็น ให้ไปที่ขั้นตอนที่ 5
  5. เปิดคีย์โดยทำดังนี้
    • หากคีย์มีแป้นกลมสีทอง ให้แตะแป้นนั้น
    • หากคีย์มีส่วนปลายสีทอง ให้แตะแล้วกดที่ส่วนปลายนั้น
    • หากคีย์มีปุ่ม ให้กดปุ่มนั้น
    • หากคีย์ไม่มีลักษณะตามด้านบนเลย คุณอาจต้องดึงออกและเสียบกลับเข้าไปใหม่ คีย์ประเภทนี้จะปิดการทำงานหลังการใช้งานแต่ละครั้ง

จัดระเบียบคีย์ความปลอดภัย

คุณจัดการคีย์ความปลอดภัยได้ในการตั้งค่าการยืนยันแบบ 2 ขั้นตอน ในส่วนนี้ คุณจะเห็นรายการคีย์ที่เพิ่มไว้ซึ่งเรียงจากใหม่ไปเก่า รวมถึงจะเห็นข้อมูลเพิ่มเติมด้วย เช่น ชื่อคีย์ วันที่เพิ่ม และวันที่ใช้ครั้งล่าสุด ชื่อคีย์มีค่าเริ่มต้นเป็น "คีย์ความปลอดภัย" เว้นแต่คุณจะเลือกชื่อที่กำหนดเอง

นอกจากนี้คุณยังมีตัวเลือกในการแก้ไขหรือลบชื่อของคีย์ความปลอดภัยแต่ละชื่อด้วย

เปลี่ยนชื่อคีย์ความปลอดภัย

คลิกไอคอนดินสอ แก้ไข ข้างคีย์ความปลอดภัยแต่ละรายการเพื่อแก้ไขชื่อ ซึ่งหมายความว่าหากมีคีย์ความปลอดภัยหลายรายการ คุณจะระบุคีย์เหล่านั้นได้ง่ายขึ้นเมื่อใช้ชื่อที่กำหนดเอง

นําคีย์ความปลอดภัยออก
ข้างคีย์ความปลอดภัย ให้คลิกไอคอนถังขยะ ลบ เพื่อนําคีย์ความปลอดภัยออกและไม่ให้เชื่อมต่อกับบัญชี Google อีกต่อไป ระบบจะขอให้คุณยืนยันเมื่อนําคีย์ความปลอดภัยออก คุณอาจต้องลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google อีกครั้งด้วย

ใช้คีย์ความปลอดภัยไม่ได้

หากใช้คีย์ความปลอดภัยไม่ได้ คุณสามารถสร้างรหัสความปลอดภัยเพื่อใช้การยืนยันแบบ 2 ขั้นตอนได้โดยทำดังนี้

  1. ไปที่ g.co/sc ในอุปกรณ์ที่ลงชื่อเข้าใช้บัญชีของคุณ
  2. ทำตามวิธีการบนหน้าจอ

รีเซ็ตคีย์ความปลอดภัยที่ล็อก

คีย์ความปลอดภัยบางรายการต้องใช้การยืนยันเพิ่มเติม เช่น PIN 

หากคีย์ความปลอดภัยถูกล็อกเนื่องจากป้อน PIN ที่ไม่ถูกต้องหลายครั้งและต้องรีเซ็ต ให้ทําดังนี้

  1. เปิด Chrome Chrome ในคอมพิวเตอร์
  2. ที่ด้านขวาบน ให้คลิกเพิ่มเติม เพิ่มเติม
  3. คลิกการตั้งค่า จากนั้น ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย จากนั้น ความปลอดภัย จากนั้น จัดการคีย์ความปลอดภัย จากนั้น รีเซ็ตคีย์ความปลอดภัย
  4. ทำตามวิธีการบนหน้าจอ

เคล็ดลับ: คุณใช้ Chrome เพื่อรีเซ็ตคีย์ความปลอดภัยที่ล็อกอยู่ได้ ไปที่ chrome://settings/securityKeys

คีย์ความปลอดภัยหาย

หากคีย์ความปลอดภัยหาย ให้ทําตามขั้นตอนสําหรับประเภทการยืนยันแบบ 2 ขั้นตอนที่คุณมีเพื่อเข้าถึงบัญชีและปกป้องบัญชีอีกครั้ง ดังนี้

หากคุณมีขั้นตอนที่ 2 แบบอื่น

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google ด้วยรหัสผ่านและขั้นตอนที่ 2 แบบอื่นที่มี
  2. ทำตามขั้นตอนเพื่อนำคีย์ที่หายไปออกจากบัญชี
  3. ซื้อคีย์ความปลอดภัยใหม่ คุณอาจต้องซื้อคีย์สำรองไว้ 1 อันและเก็บไว้ในที่ที่ปลอดภัย
  4. เพิ่มคีย์ใหม่ในบัญชี

หากไม่มีขั้นตอนที่ 2 แบบอื่นหรือลืมรหัสผ่าน

หมายเหตุ: การยืนยันแบบ 2 ขั้นตอนกำหนดให้มีขั้นตอนเพิ่มเติมในการพิสูจน์ว่าคุณเป็นเจ้าของบัญชี และเนื่องจากการรักษาความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นนี้ Google จึงอาจต้องใช้เวลา 3-5 วันทำการในการตรวจสอบว่าคุณเป็นผู้ที่กำลังพยายามลงชื่อเข้าใช้จริงๆ

  1. ทำตามขั้นตอนการกู้คืนบัญชี ตอบคำถามเพื่อยืนยันว่าเป็นบัญชีของคุณ
  2. ระบบอาจขอให้คุณทำดังนี้
    • ป้อนอีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ติดต่อคุณได้
    • ป้อนรหัสที่ส่งไปยังอีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์ของคุณ รหัสนี้ช่วยให้แน่ใจว่าคุณเข้าถึงอีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์นั้นได้

แหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม

ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
2580457185437988903
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
70975
false
false